วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

3 ก.ค เลือกคนดีเข้าสภา

รณรงค์เลือกตั้ง2554 กับรัฐศาสตร์ วลัยลักษณ์
เลือกตั้ง ส.ส. กลไกสำคัญสู่วิถีประชาธิปไตยที่ยั่งยืน
  ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คำว่า ประชาธิปไตยแปลว่า ประชาชนเป็นใหญ่คือการที่ประชาชนมีอำนาจอธิปไตยหรือมีอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศ แต่ประชาชนทั้ง 64 ล้านคน จะเข้าไปปกครองบริหารประเทศทั้งหมดด้วยตนเองย่อมเป็นไปไม่ได้ จึงต้องมอบ อำนาจอธิปไตยให้แก่ตัวแทนที่ตนเลือกเพื่อให้ไปทำหน้าที่ด้านนิติบัญญัติและ ด้านการบริหารแทนประชาชน ดังนั้นจึงมีการเลือกตั้ง ส.ส. ให้ทำหน้าที่แทนประชาชน

การเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งนี้อยู่ในช่วงเวลาที่ประชาชนบางกลุ่มมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน หากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งพร้อมใจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อย่างพร้อมเพรียงกัน ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ย่อมหมายถึงประชาชนส่วนใหญ่ได้ตัดสินใจเลือกแล้วและได้แสดงเจตนารมณ์ อย่างแรงกล้าที่ต้องการให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งคนใดหรือพรรคการเมืองใด เข้าไปแก้ไขปัญหาและระงับความขัดแย้งต่างๆ ให้หมดไปจากประเทศไทย

ดังนั้น การตัดสินใจเลือกใคร พรรคการเมืองใด หรือแม้แต่การตัดสินใจไม่เลือกใครหรือพรรคการเมืองใดเลย จึงเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของประชาชนผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่จะต้องพิจารณาให้ลึกซึ้งอย่างมีเหตุผล โดยเลือก
คนดี มีความสามารถ ซื่อสัตย์ สุจริต เห็นประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนให้เข้าไปบริหารบ้านเมืองเพื่อประโยชน์สุขของพวกเราทุกคน

วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

วันมาฆบูชา

วันมาฆบูชา (บาลี: มาฆปูชา; อังกฤษ: Magha Puja) เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของชาวพุทธเถรวาทและวันหยุดราชการในประเทศไทย[1] "มาฆบูชา" ย่อมาจาก "มาฆปูรณมีบูชา" หมายถึงการบูชาในวันเพ็ญกลางเดือนมาฆะ ตามปฏิทินของอินเดีย หรือเดือน 3 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย (มักอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หรือเดือนมีนาคม) ถ้าในปีใดมีเดือน อธิกมาส คือมีเดือน 8 สองหน (ปีอธิกมาส) ก็เลื่อนไปทำในวันเพ็ญเดือน 3 หลัง (วันเพ็ญเดือน 4) [2]
วันมาฆบูชา ได้รับการยกย่องเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเนื่องจากเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อ 2,500 กว่าปีก่อน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ท่ามกลางที่ประชุมมหาสังฆสันนิบาตครั้งใหญ่ในพระพุทธศาสนา โดยมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นพร้อมกัน 4 ประการ คือ พระสงฆ์สาวกที่มาประชุมพร้อมกันทั้ง 1,250 รูปนั้นได้มาประชุมกันยังวัดเวฬุวันโดยมิได้นัดหมาย, พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดต่างล้วนเป็น "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" หรือผู้ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง, พระสงฆ์ทั้งหมดที่มาประชุมล้วนเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญา 6, และวันดังกล่าวตรงกับวันเพ็ญมาฆปุรณมีดิถี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ดังนั้นจึงมีคำเรียกวันนี้อีกคำหนึ่งว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" หรือ วันที่มีการประชุมพร้อมด้วยองค์ 4[3][4]
เดิมนั้นไม่มีการประกอบพิธีมาฆบูชาในประเทศพุทธเถรวาท จนมาในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) พระองค์ได้ทรงปรารภถึงเหตุการณ์ครั้งพุทธกาลในวันเพ็ญเดือน 3 ดังกล่าวว่า เป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญยิ่ง ควรมีการประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนาเพื่อเป็นที่ตั้งแห่งความศรัทธาเลื่อมใส จึงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชกุศลมาฆบูชาขึ้น[5] โดยการประกอบพระราชพิธีคงคล้ายกับวันวิสาขบูชา คือมีการบำเพ็ญพระราชกุศลต่าง ๆ มีการพระราชทานจุดเทียนตามประทีปเป็นพุทธบูชาในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระอารามหลวงต่าง ๆ เป็นต้น โดยในช่วงแรกพิธีมาฆบูชาคงเป็นการพระราชพิธีภายใน ยังไม่แพร่หลายทั่วไป จนต่อมาความนิยมจัดพิธีมาฆบูชาจึงได้ขยายออกไปทั่วราชอาณาจักร
ปัจจุบันวันมาฆบูชาได้รับการประกาศให้เป็นวันหยุดราชการในประเทศไทย[1] โดยพุทธศาสนิกชนทั้งพระบรมวงศานุวงศ์[6] พระสงฆ์ และประชาชน จะมีการประกอบพิธีต่าง ๆ เช่น การตักบาตร การฟังพระธรรมเทศนา การเวียนเทียน เป็นต้น เพื่อเป็นการบูชารำลึกถึงพระรัตนตรัยและเหตุการณ์สำคัญดังกล่าว ที่ถือได้ว่าเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงประทานโอวาทปาฏิโมกข์[7] ซึ่งกล่าวถึงหลักคำสอนอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ได้แก่ การไม่ทำความชั่วทั้งปวง การบำเพ็ญความดีให้ถึงพร้อม และการทำจิตของตนให้ผ่องใส เพื่อเป็นหลักปฏิบัติของพุทธศาสนิกชนทั้งมวล
นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2549 รัฐบาลไทยได้ประกาศให้วันมาฆบูชา ให้เป็น "วันกตัญญูแห่งชาติ" เนื่องจากปัจจุบันสังคมไทยวัยรุ่นสาวมักจะเสียตัวในวันวาเลนไทน์หลายหน่วยงานจึงพยายามรณรงค์ให้วันมาฆบูชาเป็นวันแห่งความรัก (อันบริสุทธิ์) แท

วันแห่งความรัก

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

ไทย-กัมพูชา

                    สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชากลับสู่ปกติแล้ว
ศรีสะเกษ 7 ก.พ. - เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งอพยพชาวบ้านจาก 5 ตำบลของ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย ล่าสุดสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาพปกติแล้ว

สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ที่ผ่านมา เสียงปืนใหญ่ได้เงียบลงแล้ว เจ้าหน้าที่จึงเร่งอพยพชาวบ้าน 5 ตำบล ประกอบด้วย ต.รุง ต.เสาธงชัย ต.ภูผาหมอก ต.ละลาย ต.บึงมะลู ออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย

ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำเต็นท์มากางบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ เพิ่มอีก 60 หลัง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านที่เพิ่งอพยพมาถึง โดยในวันนี้ (7 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมกำลังตำรวจตระเวนชายแดน จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของทั้ง 5 ตำบลที่ได้รับผลกระทบ เพื่อเร่งฟื้นฟูให้กลับเข้าสู่สภาพปกติโดยเร็ว. - สำนักข่าวไทย

วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554

ทำไม? การศึกษาต้องมาก่อน

ทำไม ทำไม  เพราะ ถ้าเราไม่มีการศึกษา เราก็จะไม่ค่อยมีความรู้สมองก็จะตามกลไกของคนอื่นไม่ทัน เราก็จะเป็นคนโง่  การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญทุกคนต้องเรียนต้องขวนขวายจึงจะได้ความรู้มา พอเรามีความรู้มากๆความสบายก็จะตามมา นักศึกต้องเป็นนักศึกษาที่ดีมีคุณภาพทั้งทางด้านศีลธรรม ทั้งด้านมีความรู้ต่างๆมากมาย   ผมมีกลอนอันหนึ่ง จะเรียกว่าก่อนก็ได้
                                           รากฐานของบ้านคืออิฐ   รากฐานของชีวิตคือการศึกษา
  คือครู ช่อเพชร  ศรีทร ท่านบอก ตอนที่ผมเรียนกับท่าน  อิฐก่อทีละนิทีละนิไปเรื่อยมันก็เป็นรูปทรง เป็นบ้านที่อยู่ การศึกษษก็เหมือนกันถ้าเราเรียนเราเก็บสะสมความรู้ไปมากๆเราก็จะมีความรู้มากสามารถนำไปใช่ได้มากมาย     
                                         จบ

วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2554

อยากเป็นครู

ผมถามหลายคนว่าอยากเป็นครูไหม เขาก็บอกว่าไม่ เพราะ เขาว่าอาชีพครูอยู่แต่กับเด็ก เงินเดือนน้อย
ต้องเป็นผู้เสียสละ ผมเลยคิดว่า คนเหล่านี้พ่อแม่เขาปลูกฝังแต่ยังเด็กว่าให้เป็นคนเห็นแก่ตัว แต่ผมคิดว่าอาชีพครูเป็นอาชีพที่ดี มั่นคง ถ้าทุกคนไม่มีครู ทุกคนจะอ่านออกเขียนได้เหรอ ไม่ใช้เพราะครูเหรอ
ดังนั้นครูสำคัญยิ่ง